หลายคนคงที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลหรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลเลยอาจจะไม่ทราบว่าลูกฟุตบอลที่เหล่านักกีฬาเตะๆ กันอยู่ทุกวันนี้นั้นมีราคาที่แตกต่างกัน เพราะลูกฟุตบอลในแต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นนั้นมีการผลิตและการเลือกใช้หนังที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกฟุตบอลหนังแบบ PU, PVC และ TPU รวมไปถึงขั้นตอนในการผลิตที่แตกต่างกัน จะเย็บด้วยมือ เย็บด้วยเครื่องจักรหรือการอัดกาว ความแตกต่างเหล่านี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมลูกฟุตบอลนั้นราคาไม่เท่ากันนั่นเอง ชนิดของวัตถุดิบและขั้นตอนที่แตกต่างกันทำให้ลูกฟุตบอลแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับรสนิยมและลักษณะของการแข่งขันเองด้วย
พื้นฐานการผลิตลูกฟุตบอลส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน ดังนี้
.
ถือว่าเป็นขั้นตอนการผลิตลูกฟุตบอลที่ต้นทุนสูงมากที่สุดเพราะเป็นการทำด้วยมือเปล่า ถึงแม้จะเป็นงานแฮนด์เมดแต่ก็นับเป็นวิธีที่ทำให้ลูกบอลแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานและเสียรูปทรงได้ยากมากที่สุดวิธีหนึ่ง ลูกฟุตบอลที่มีการผลิตแบบนี้มักถูกใช้ในการแข่งขันระดับสูง ถึงแม้จะมีความทนทานแต่ก็ต้องเติมลมอยู่บ่อยๆ เพราะการเย็บด้วยมือมักจะทำให้ตะเข็บมีความห่างกันมากกว่าปกติ
.
การผลิตอะไรก็ตามด้วยเครื่องจักรมักจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าเสมอ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการผลิตสินค้าในปริมาณมากๆ ลูกฟุตบอลก็เช่นกัน การผลิตแบบนี้จะมีราคาย่อมเยากว่าลูกฟุตบอลงานฝีมือ การเย็บด้วยเครื่องจักรจะมีความละเอียดกว่าการทำมือ เก็บลมได้ดีกว่า รูปทรงสวยกว่า รอยตะเข็บที่สม่ำเสมอ แต่ความทนทานจะมีน้อยกว่าโดยจะเสียทรงได้ง่ายเมื่อมีการใช้งานเป็นระยะเวลานาน
.
ถือเป็นการผลิตฟุตบอลที่ใช้ต้นทุนน้อยที่สุดจึงทำให้มีราคาถูกที่สุดด้วยเช่นกันสำหรับลูกฟุตบอลหนังอัด โดยแผ่นหนังจะทำจาก PVC หรือ PU และอัดเข้ากันด้วยกาว ทำให้ลูกฟุตบอลไม่มีตะเข็บ แต่อายุการใช้งานของลูกฟุตบอลก็จะน้อยมากที่สุด หนังที่อัดด้วยการจะร่อนออกได้ง่ายและลูกฟุตบอลจะมีความแข็ง เมื่อมีการใช้งานนานวันก็จะปริหรือบวมได้
ชนิดของหนังที่ใช้ในการผลิตลูกฟุตบอล